Loading

          วัฒนธรรมจังหวัดระยอง ปล่อยคาราวาน”วัฒนธรรมระยอง ปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน”นำเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

        เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่วัดป่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานฝ่ายฆราวาสเปิดโครงการ “วัฒนธรรมระยอง ปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน” มีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  และมีพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงษ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ นายอำเภอเมืองระยอง นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอนิคมพัฒนา และนายกุมพล ชวนชม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ร่วมโครงการฯ

        ภายในได้มีกิจกรรม มอบเครื่องอุปโภคอุปโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อุปกรณ์การแพทย์ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์มอบให้โรงพยาบาล และ รพ.สต.ในจังหวัดระยอง จำนวน 86 แห่ง และปล่อยขบวนรถปันสุขอำเภอละ 1 คัน จำนวน 8 อำเภอ เพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบส่งต่อให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการโครงการ “วัฒนธรรมระยอง ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน”ของแต่ละอำเภอด้วย เพื่อเปิดรับบริจาคและส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องต่อไป

        นอกจากนี้ภายในงานพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง ยังได้มอบเงินในนามคณะสงฆ์จังหวัดระยอง จำนวน 100,000 บาท สนับสนุนโครงการ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย…..0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง เปิดหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในศูนย์การค้าฯ เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัคร ประชาชนที่ลงทะเบียนแล้ว


สำหรับลูกค้าประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ขอให้รอการประกาศและให้ลงทะเบียนหมอพร้อมเพื่อรับบริการต่อไป

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลยังคงดูแลความสะอาดปลอดภัยขั้นสูงสุดอย่างเคร่งครัด ตามมาตการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกคนมั่นใจและปลอดภัยที่สุด


ขอให้มั่นใจว่าเราจะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างดีที่สุดไปด้วยกัน❤️

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

          หลวงปู่ทองสุข พระเกจิดังระยอง ให้ลูกศิษย์นำวัตถุมงคล เปิดประมูลเพื่อนำเงินช่วยเหลือชาวบ้านรอบวัดที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากการระบาดโควิด-19

     วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่วัดหนองฆ้อ ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 85 ปี ของหลวงปู่ทองสุข ลทัธเมโธ พระเกจิดังระยอง เจ้าอาวาสวัดหนองฆ้อ บรรดาศิษยานุศิษย์ ได้พร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลองอายุวัฒนะมงคลครบรอบ 85 ปี ของหลวงปู่ทองสุข ขึ้น ซึ่งงานนี้ได้จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีการจำกัดจำนวนผู้คนและชาวบ้านเข้าไปร่วมงาน มีตรวจคัดกรองผู้คนเข้าไปในงาน เว้นระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

    นายนิพนธ์ เสียงจันทร์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทองสุข และประธานการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทองสุข หลายรุ่น ได้นำวัตถุมงคล พระเครื่องของหลวงปู่ทองสุข จำนวน 2 รายการมาทำการเปิดประมูล เพื่อนำเงินรายได้จากการประมูลไปช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนรอบวัดหนองฆ้อ ด้วย โดยได้รับความสนใจจากบรรดาเซียนพระและศิษยานุศิษย์ที่เดินทางไปร่วมเข้าร่วมประมูลเพื่อแย่งชิงกันเป็นเจ้าของวัตถุมงคลของหลวงปู่ทองสุข

สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่ทองสุข ที่นำมาเปิดประมูลเพื่อนำรายได้ช่วยชาวบ้านรายการที่ 1 เป็นพระขุนแผน เนื้อก้นครก ตระกรุดทองคำ ปรากฏว่ามีการสู้ราคาประมูลไปสิ้นสุดที่ราคา 5 หมื่นบาท โดยนายมานิตย์ บุญเผย อายุ 43 ปี เป็นผู้ชนะการประมูล

       และรายการที่ 2 เป็นการรวมชุด ประกอบด้วย พระเหรียญหันข้าง ประกอบไปด้วย เหรียญเนืัอเงินหน้ากากทองคำลงยาสีแดง หมายเลข 24 เหรียญหันข้างเนื้อเงินหน้ากากทองคำ หมายเลข 34 เหรียญหันข้างเยื้อเงินฝังพลอย หมายเลข 922 พญาครุฑปิดทอง หมายเลข 3 และ พระขุนแผนเนื้อก้นครกปิดทองหน้า หมายเลข 47 หลังเปิดประมูลเริ่มต้นที่ราคา 9,999 บาท มีการประมูลแข่งขันกันอย่างดุเดือด จนไปสิ้นสุดที่ 150,000 บาท ผู้ชนะการประมูลคือ นายไพฑูรย์ คงสมบูรณ์ อายุ 50  ปี

นายนิพนธ์ เสียงจันทร์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงปู่ทองสุข กล่าวว่า จากนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ออกมาทำการประมูลครั้งนี้ เพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านในชุมชนรอบวัดหนองฆ้อ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 ซึ่งปัญหาดังกล่าวหลวงปู่ทองสุข ได้อนุญาตให้พวกตนได้นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่มีอยู่แบ่งออกมาเปิดประมูล เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือญาติโยมชาวบ้านที่เดือดร้อน ที่ผ่านมาทางวัดหนองฆ้อได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง และเงินรายได้จำนวน 2 แสนบาท จากการเปิดประมูลวัตถุมงคลหลวงปู่ทองสุข เจ้าอาวาสวัดหนองฆ้อ ครั้งนี้ ได้มอบให้ผู้นำชุมชนรอบวัดหนองฆ้อ นำไปซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค แจกแก่พี่น้องประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป..นอกจากนั้นยังให้ผู้โชคดี3รายรับพระทองคำจากการเช่าพระไปแล้วในราคาปกติมีหมายเลขที่กรรมการวัดได้เขียนไว้ในกล่องพระให้มารับพระทองคำฟรีประจำรุ่นอีกด้วย…..00000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

“ผลไม้รสล้ำ” คำขึ้นต้นของคำขวัญประจำจังหวัดระยอง แสดงให้เห็นว่าจังหวัดระยองสามารถปลูกผลไม้ได้หลากหลายชนิด มีรสชาติดีถูกใจนักท่องเที่ยว ต้องซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากทุกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ผลไม้ออกชุกเป็นพิเศษ เช่น มะม่วง ทุเรียน มังคุด รวมถึง สับปะรดทองระยอง ผลไม้ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่อร่อย เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะมีผลผลิตออกมาพร้อมกัน ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในจังหวัดระยอง ประสบปัญหาราคาตกต่ำและผลผลิตล้นตลาด

เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ปลูกสับปะรดในจังหวัดระยอง GC ร่วมกับ ประชารัฐรักสามัคคีระยอง จึงได้ จัดโครงการ “Pineapple Aloha” เพื่อเป็นการอุดหนุนสับปะรดจากเกษตรกรในระยอง นำไปมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลระยอง ซึ่งเป็นผู้เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับโควิด 19 เพื่อความปลอดภัยของทุกคนอย่างเต็มที่ตลอดมา โดยได้รับเกียรติจาก นางธัมมิกา เอี่ยมแสง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง เป็นประธานในการปล่อยขบวนรถบรรทุกสับปะรด “Pineapple Aloha” ปริมาณบรรทุกคันละ 2,000 กิโลกรัม  พร้อมด้วยนางสาวเชาวนี พันธุ์พฤกษ์ ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงานบริหารกิจการเพื่อสังคม พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ ประธานกรรมการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เข้าร่วมงาน ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง

สับปะรดทองระยอง (Rayong Golden Pineapple) หมายถึง สับปะรดสายพันธุ์ควีน (Queen) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศรับรองให้สับปะรดทองระยอง เป็นผลผลิตที่ผ่านการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จีไอ (GI : Geographical Indication) ลักษณะเฉพาะ ขอบใบที่ต้นและจุกมีหนามสั้นแหลมคม สีชมพูอมแดง รูปผลทรงกระบอก ตาผลใหญ่ ร่องตาตื้น เปลือกบาง เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีทองทั้งผล เนื้อสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอตลอดผล เนื้อแน่น แห้ง ไม่ฉ่ำน้ำ รสชาติเปรี้ยวหวาน มีกลิ่นหอม รับประทานแล้วไม่กัดลิ้น ปลูกในเขตพื้นที่ของจังหวัดระยอง

               สนใจสั่งซื้อเพื่ออุดหนุนเกษตรกร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยงานบริหารกิจการเพื่อสังคม โทร. 087-500-4726,065-395-5449

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

GPSC Group ร่วมฝ่าโควิด-19 ระลอกใหม่ สนับสนุนอุปกรณ์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19

      บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ส่งมอบความช่วยเหลือให้กับบุคลากรทางการแพทย์รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยให้ความช่วยเหลือดังนี้

 – บริจาคเงินสมทบทุน จัดซื้อเครื่องไฮโฟลว์สำหรับรับมือผู้ป่วย COVID-19 ให้กับศิริราชมูลนิธิ จำนวน 500,000 บาท

– บริจาคเงินสมทบทุน ช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 500,000 บาท

– สนับสนุนเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องอบ UV เพื่อป้องกันเชื้อ COVID-19 ให้กับศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ มูลค่า 100,000 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 6,000 ตัว ให้กับกระทรวงสาธารณสุข มูลค่า 90,000 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 3,750 ชุด ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง มูลค่า 56,560 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 2,250 ตัว ให้กับโรงพยาบาลบางละมุง มูลค่า 33,750 บาท

           งบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,280,310 บาท GPSC Group พร้อมสู้เคียงข้างคนไทย และให้ความช่วยเหลือ แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทยได้อย่างปลอดภัย…000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

นายก”ช้าง” นายก อบจ.ระยอง ใจปล้ำ ประกาศยอมควักกระเป๋าจ่ายเพิ่มอีกเด้ง จาก สปสช.หากใครเสียชีวิตจากฉีดวัคซีนโควิด เพื่อรณรงค์กระตุ้นดึงให้คนระยองออกมาฉีดวัคซีนโควิด

****วันนี้วันที่18พค. เวลา 10.00 น.ที่ชั้น 3 ตึก อบจ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ หรือ นายก ช้าง นายก อบจ.ระยอง ได้ตั้งโต๊ะแถลงประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนระยอง ว่า ใครเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะควักกระเป๋าส่วนตัวจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มให้อีกเป็นเด้งที่ 2 นอกเหนือจากเด้งแรกรับจาก สปสช.ที่ประกาศจ่ายให้ผู้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการฉีดวัคซีนโควิด-19
ทั้งนี้นายก อบจ.ระยอง ได้กล่าวว่า ที่ต้องออกมาประกาศเสียงดังครั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะรณรงค์เชิญชวนให้ชาวระยองและผู้คนที่อยู่ในจังหวัดระยอง ได้พร้อมใจกันออกมารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดหรือทุกคน อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวระยองถึงความปลอดภัยของวัคซีน ที่หลายฝ่ายต่างมองว่าไม่มีความปลอดภัยหรือเสี่ยงอันตราย
นายปิยะ ยังกล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ตนเองฉีดวัคซีน ซิโนแวคไปแล้ว 1 เข็ม จึงทำให้อาการทั่วไปไม่รุนแรง ล่าสุดหายเป็นปกติแล้ว ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงควรให้ประชาชนชาวระยองเข้ารับการฉีดวัคซีนกันทุกคน เพื่อทุกคนจะได้ปลอดภัยจากโควิด-19 เพราะการฉีดวัคซีนมีประโยชน์กว่าไม่ฉีด และไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับอันตรายจากการฉีด เพราะทางภาครัฐรับประกันใครเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน มีการจ่ายเงินช่วยเหลือ จำนวน 400,000 บาท โดยตนเองจะควักเงินส่วนตัวจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มให้อีก 400,000 บาท ในกรณีมีทะเบียนบ้านเป็นคนระยอง และหากเป็นคนระยองโดยกำเนิดแล้ว จะจ่ายเพิ่มอีก 100,000 บาท รวมเป็น 500,000 บาท ด้วย ส่วนกรณีที่ไม่ใช่คนระยอง ไม่มีทะเบียนในจังหวัดระยอง แต่มาทำงานในจังหวัดระยอง จ่าย 300,000 บาท เงินส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับเงินเยียวยาของ สปสช.หรือเงินของภาครัฐที่เยียวยา โดยการจ่ายเงินเยียวยาจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับ สปสช.คือ ต้องให้แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนเท่านั้น
สำหรับเงินเยียวยาที่นายปิยะ เสนอจ่ายเงินส่วนตัวแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ดังนี้
1.ฉีดวัคซีน แล้วเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระยอง แต่ไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดระยอง จ่าย 300,000 บาท ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดระยอง จ่ายเพิ่มหนึ่งแสนบาท เป็น 500,000 บาท
2.ฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการพิการหรือสูญเสียอวัยวะทางร่างกาย จ่าย 240,000 บาท เป็นประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ จังหวัดระยอง จ่าย 340,000 บาท
3.บาดเจ็บจากการฉีดวัคซีน ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระยอง จ่าย 100,000 บาท สำหรับประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดระยอง จ่าย 200,000 บาท


ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลของรัฐและได้รับการยืนยันจากแพทย์เท่านั้นว่าเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19
นายปิยะ ได้กล่าวย้ำว่า ทั้งนี้การประกาศยอมควักกระเป๋าตัวเองครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ชาวระยองทุกคนออกมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อจังหวัดระยองของเราจะได้ลดกระแพร่ระบาดและปลอดภัยจากโควิด-19หมดไปเสียทีเพราะระยองโดนโควิดต่อเนื่อง3-4 ครั้งเสียหายมาก ซึ่งจะก่อเกิดเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดระยองเป็นจังหวัดอีอีซี ที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศชาติลำดับต้นของประเทศถ้าผู้ทำเงินให้ประเทศเกิดการเสียหายป่วยแล้วไม่สามารถทำงานทำเงินได้ประเทศชาติก็เดือดร้อนเช่นกันจึงอยากได้วัคซีนก่อนฉีดให้มาก70 เปอร์เซนต์ก็ยังดี พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ประชากรแฝงที่อยู่ในจังหวัดระยองให้ย้ายสำเนาทะเบียนมาอยู่ในจังหวัดระยองและออกรับการฉีดวัคซีนทุกคน…………………..00

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ร่วมกับ โรงพยาบาลระยอง เดินหน้าป้องกัน COVID-19 ตามแผนโรดแมปเร่งด่วนในการช่วยกระจายพื้นที่ฉีดวัคซีน  โดยในรอบนี้  ถือเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ของผู้รับวัคซีนไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, อสม และประชาชนที่มีโรคประจำตัว  โดยทางศูนย์การค้า มีความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของชาวระยอง และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากร้านอาหารในศูนย์การค้า ได้แก่ ร้านฮะจิบัง ราเมน และ ร้านยามาซากิ ร่วมมอบอาหารกล่องแก่บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในครั้งนี้อีกด้วย 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 33 แห่งทั่วประประเทศ ยังคงเดินหน้ามาตรการเชิงรุก “เซ็นทรัล ผู้นำสะอาด มั่นใจ” ขั้นสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยการป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วยปฏิบัติการ Extra Deep Cleaning ฉีดฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูง และ ทำ Big Cleaning ทุกวัน ทุกจุดทั่วศูนย์ฯ อีกทั้งยังคุมเข้มมาตรการเชิงรุก ภายใต้ 5 แกนหลัก ได้แก่ 1) การคัดกรองอย่างเข้มงวด 2)ย้ำมาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด งดความแออัด 3) การติดตามให้มั่นใจ เพื่อความปลอดภัย 4)การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดในเชิงรุก และ 5) ลดการสัมผัส เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ

เซ็นทรัลพลาซา ระยอง ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และพร้อมร่วมสนับสนุนทุกภาคส่วน เพื่อให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันได้อย่างดีที่สุด…0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

จีซี (GC) จับมือ บีไอจี (BIG) มอบออกซิเจนทางการแพทย์ ช่วยเหลือวิกฤตโควิดระลอกใหม่

       บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี : BIG) ในฐานะผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (จีซี : GC) ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต สนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์ให้กับ 5 โรงพยาบาลทั้งกรุงเทพและเขตภาคตะวันออก เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ป่วยหนักในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

           นายปฏิภาณ สุคนธมาน   ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้ง จีซี (GC) และ บีไอจี (BIG) ตระหนักถึงแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจจะเพิ่มภาระการรักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น ทั้งจากจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศที่เพิ่มมากขึ้น GC ได้ตัดสินใจสนับสนุนในกระบวนการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ในทันที การร่วมมือของสองบริษัทพันธมิตรในครั้งนี้ เพื่อส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั้งในพื้นที่จังหวัดระยองซึ่งเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของ GC และในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 5 โรงพยาบาล จำนวนกว่า 360 ตัน เฉลี่ยแล้วสามารถนำออกซิเจนนี้มาดูแลผู้ป่วยวิกฤติได้มากกว่า 400 เตียง”

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด กล่าวเสริมว่า “บีไอจี (BIG) เป็นผู้ผลิตและให้บริการออกซิเจนทางการแพทย์กับโรงพยาบาลในประเทศไทย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 บีไอจีได้ Restart โรงแยกอากาศ (Air Separation Unit : ASU) โรงงาน 1 เพื่อเดินเครื่องผลิตและรองรับความต้องการออกซิเจนได้อีก 30% จากความต้องการในปัจจุบัน และในการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก จีซี (GC)  เพื่อส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ ความบริสุทธ์ 99% ตามมาตรฐานมอก.”

        โดยทั้ง 5 โรงพยาบาลที่ทั้งสองพันธมิตรให้การสนับสนุนออกซิเจนเหลวทางการแพทย์จำนวน 360 ตัน เฉลี่ยแล้วสามารถนำออกซิเจนนี้มาดูแลผู้ป่วยวิกฤติได้มากกว่า 400 เตียงในครั้งนี้ รวมมูลค่ากว่า 10,000,000 บาท ได้แก่

1. โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จ.ชลบุรี

2. โรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง

3. โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ.ระยอง

4. โรงพยาบาลเลิดสิน จ.กรุงเทพมหานคร

5. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จ.กรุงเทพมหานคร

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งจีซี (GC) และบีไอจี (BIG) ตระหนักถึงความสำคัญและพร้อมที่จะเป็นหน่วยสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อนำไปดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส   โควิด-19

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับกลุ่มบริษัทโซลเวย์ (Solvay) บริจาคน้ำยาฆ่าเชื้อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทร่วมทุนของ Dow และ Solvay เพิ่มเติมอีกจำนวนกว่า 20,000 ลิตร ให้แก่อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้สำหรับส่งเสริมสุขอนามัยและความปลอดภัยของชุมชน ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้

โดยก่อนหน้านี้ Dow และ Solvay ได้ร่วมกันบริจาคไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งใช้ผสมเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีผลกระทบตกค้างในสิ่งแวดล้อมให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เทศบาล และสถานศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัดระยองรวมแล้วกว่า 100,000 ลิตร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารละลายใส ไม่มีสี มีสูตรทางเคมีคือ H2O2 เป็นสารออกซิไดซ์ (Oxidizing agent) หรือ สารเพิ่มจํานวนออกซิเจน ซึ่งโดยปกติแล้วไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามความเข้มข้นที่เหมาะสม เช่น ใช้สำหรับฟอกสีผ้า ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ใช้สำหรับฆ่าเชื้อในอาหาร บรรจุภัณฑ์ พื้นผิวอุปกรณ์สัมผัส รวมถึงใช้สำหรับการฆ่าเชื้อในทางการแพทย์ เป็นต้น โดยมีจุดเด่นคือสลายตัวกลายเป็นน้ำและออกซิเจน ไม่มีสารตกค้างหลังการใช้งาน..0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

 ลูกเรือประมงชาวประมงเวียดนาม 5 คน โดนถังแก๊สระเบิดไหม้ทั้งลำรอดตายปาฏิหาริย์  เกาะถังน้ำแข็งลอยคอกลางทะเล 2 วัน  โชคดีเรือประมงไทยไปพบ จึงช่วยชีวิตไว้ได้ บาดเจ็บสาหัส 2 คน

      ***เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 พ.ค. เรือโท นวทรัพย์ เสริมอยู่คง เจ้าหน้าที่ ศร.ชล.ระยอง ได้รับแจ้งจากนาย  สมพงษ์ ฐารพันธ์ ไต๋ก๋งเรือพรสมุทร ว่าขณะแล่นเรือออกไปกลางทะเลระยอง ได้พบกับลูกเรือประมงชาวเวียดนาม เป็นผู้ชายจำนวน 5 คน เกาะถังพลาสติกลอยคออยู่กลางทะเล ห่างฝั่งประมาณ 10 ไมล์ทะเล  ประมาณ 16 กิโลเมตร จึงช่วยเหลือขึ้นมาบนเรือ โดยเบื้องต้นสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้พุพองไปทั้งตัว 1 คน และขาหัก 2 คน กำลังแล่นเรือพาเข้ามายังชายฝั่ง บริเวณท่าเรือแหลมเจริญ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ระยอง  เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ระยอง และ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง พร้อมล่ามภาษาเวียดนาม มารอตรงบริเวณท่าเรือแหลมเจริญ เพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือ   เมื่อเรือพรสมุทร เดินทางมาถึงท่าเรือ เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือ ลูกเรือเวียดนามทั้ง 5 คน ลงมาจากเรือ โดยพบว่าทั้ง 5 คนอยู่ในอาการอิดโรย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน มีแผลไฟไหม้พุพองทั่วตัว 1 คน และ ขาหัก 1 คน จึงรีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคนส่ง รพ.ระยอง รักษาบาดแผล ส่วนอีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีเพียงอาการอิดโรยจากการลอยคออยู่ในทะเลถึง2วัน ก่อนจะนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ที่จุดตรวจตลาดนัดเนินอุไร และนำตัวกลับมายัง สภ.เมือง ระยอง มอบอาหารและน้ำดื่มให้กินประทังความหิวไปก่อน

       ***จากการสอบถามผ่านล่ามภาษาเวียดนาม นายเหวง สก นาม อายุ 35 ปี ไต๋ก๋งเรือ ได้ ให้การว่า ตนเอง กับ ลูกเรือรวม 5 คน ซึ่งเป็นคนสัญชาติเวียดนาม ได้ออกเรือมาจากชายฝั่งประเทศเวียดนามเพื่อมาจับกุ้ง เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 ก่อนเกิดเหตุ  ช่วงเที่ยงของวันที่ 6 พ.ค. เป็นช่วงที่คลื่นลมแรง เรือโคลงเคลงไปมา ลูกเรือกำลังปรุงอาหารอยู่บนเรือ ปรากฏว่าถังแก๊สได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ลูกเรือที่ปรุงอาหารได้วิ่งออกมาในสภาพมีไฟลุกไหม้ตามร่างกายร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนลูกเรืออีกหนึ่งคนที่อยู่ใกล้จุดระเบิด ร่างได้กระเด็นออกมา หลังตั้งสติ จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือทันที แต่ปรากฏว่าไฟได้ลุกไหม้ลำเรืออย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถดับไฟได้ ทั้งหมดจึงหาถังพลาสติกคนละใบ แล้ว ก็พากันกระโดดหนีตายลงทะเลทันที หลังจากนั้นก็มองเห็นเรือถูกไฟไหม้จนวอดไปทั้งลำ ลอยคออยู่กลางทะเลประมาณ 2 วัน ก็พบกับเรือประมงไทยเข้ามาช่วยเหลือและนำตัวขึ้นเรือ จนรอดตายมาได้ ต้องขอขอบคุณเรือประมงไทยที่ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เพราะทุกคนต่างอ่อนแรงเพราะขาดน้ำ แถมยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ถ้าไม่มีใครมาช่วยภายในวันสองวันก็คงจะไม่รอดเป็นแน่

***ด้านนายสมพงษ์ ไต๋เรือพรสมุทร ที่พบได้เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองพร้อมลูกเรือได้แล่นเรือออกไปเพื่อรับปลาที่หาได้จากเรือประมงอีกลำที่จอดเสียอยู่กลางทะเล ขณะแล่นเรืออยู่กลางทะเลห่างฝั่งประมาณ 10 ไมล์ทะเล ก็พบกับลูกเรือทั้ง 5 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย จึงรีบเข้าช่วยเหลือและนำตัวเข้าฝั่งทันที

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานไปยังสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยให้มาช่วยเหลือ เพื่อมารับตัวกลับยังประเทศต่อไป…000

รังสรรค์ ขวัญดี / ธนัญธร รวงผึ้ง