Loading

หนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการลำพูน-เชียงใหม่ เสริมทักษะการตลาดออนไลน์ จัดอบรมความรู้พร้อมทำ MOU สร้างมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

    เกษตรและสหกรณ์ลำพูน ประสบความสำเร็จจัดกิจกรรมอบรม ‘การเตรียมความพร้อมเกษตรกรสู่การเกษตรกรยุคดิจิทัลและการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์’ พร้อมจัดกิจกรรม ‘เจรจาธุรกิจออนไลน์’ ภายใต้โครงการพัฒนาล้านนาเมืองเกษตรสมดุลสร้างสรรค์ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจจากการเปิดโต๊ะเจรจาจับคู่ธุรกิจ และทำ MOU รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

    นายโยธิน ประสงค์ความดี รอง ผวจ.ลำพูน เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมอบรมเสริมความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ว่าเป็นการจัดอบรมในหัวข้อ ‘การเตรียมความพร้อมเกษตรกรสู่การเกษตรกรยุคดิจิทัลและการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์’ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรม ‘เจรจาธุรกิจออนไลน์-ออนไซด์’ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จ.ลำพูน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแกรนด์ ปา แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเนื้อหาจะเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ เพื่อก้าวสู่การเป็นธุรกิจเกษตรยุคดิจิทัล ซึ่งการอบรมครั้งนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมการฝึกอบรมจำนวน 40 ราย และยังมีการจับคู่เจรจาการค้า ทั้งออนไลน์และออนไซต์ โดยมีเทรดเดอร์ผู้ซื้อเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ จำนวน 8 ราย รวมจำนวน 12 คู่เจราจา

    รอง ผวจ.ลำพูน กล่าวว่า จุดเด่นของกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ ถือเป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพสูง มีผลผลิตที่หลากหลายทั้งทางพืช ปศุสัตว์ และประมง ที่สามารถผลิตออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการร้านค้า โรงแรม ที่พัก ที่มีความต้องการแปรรูปสินค้าเกษตรที่มีมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ แต่ยังขาดการพัฒนาด้านการตลาดดิจิทัล และขาดช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่สามารถสร้างรายได้ที่คุ้มค่าและเป็นธรรม การจัดอบรมในครั้งนี้จึงเป็นการเสริมศักยภาพให้กับเกษตรกร ด้วยความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดอนาคต และยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อีกด้วย’

      ด้าน น.ส.ศศิพิมล ไชยแสนพงศ์ เกษตรและสหกรณ์ จ.ลำพูน กล่าวเสริมว่า การอบรมในครั้งนี้มีเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ จำนวน 40 ราย และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรสามารถยกระดับรายได้และกระจายผลผลิตสินค้าที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่ใช้สินค้ามาตรฐานเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ โดยการอบรมครั้งนี้ จะเน้นให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้พัฒนาศักยภาพและธุรกิจได้ในด้านต่างๆ เช่น การแสวงหาช่องทางตลาดในประเทศและต่างประเทศ การบริหารตลาดคู่ค้าเดิม/ตลาดใหม่ การรู้จักเทรนด์สื่อการตลาดออนไลน์ 2024 และการวิเคราะห์เครื่องมือแต่ละชนิด โดยทีมวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล การเจรจาธุรกิจ และการเขียนแผนธุรกิจ และยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ Online Business Matching – Onsite อีกด้วย ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์สูงมาก แต่ยังขาดการส่งเสริมพัฒนาด้านการตลาด และช่องทางการตลาดที่สอดคล้องกับเทรนด์การตลาดยุคปัจจุบัน ซึ่งการจัดอบรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์แล้ว ยังส่งเสริมให้เกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย ซึ่งการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับภาคและระดับจังหวัดนั้น ถือว่าเป็นช่องทางที่จำเป็นและสำคัญ เพราะส่งผลต่อรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรโดยตรง และยังขยายผลไปยังชุมชนและสังคมอีกด้วย ที่สำคัญคือส่งเสริมให้เกิดผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยนั้น จะมีส่วนช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น มะเร็ง ความดันโลหิตสูง และอื่นๆ ด้วย

      ทั้งนี้ในการเจรจาการค้า ทั้งออนไลน์และออนไซต์ มีเทรดเดอร์ผู้ซื้อชั้นนำเข้าร่วมเจรจาธุรกิจจำนวน 8 ราย รวมจำนวน 12 คู่เจราจา.

Loading

  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง จัดงาน มหกรรมยานยนต์ สู่อนาคตใหม่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมข้อเสนอพิเศษแห่งปี ในงาน ระยอง มอเตอร์ โชว์ 

     วันที่ 27 ก.ย. นายประสาน  พฤกษาชาติ  รองนายก อบจ.ระยอง  นายมาโนช  ปทุมพิทักษ์ รองประธานหอการค้าจ.ระยอง พร้อมคณะผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง ร่วมเปิดงาน มหกรรมยานยนต์ สู่อนาคตใหม่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทรถยนต์ พาเหรดออกบูธพร้อมแคมเปญพิเศษเฉพาะในงานอย่างคับคั่ง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในจังหวัดระยอง ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ด้วยแคมเปญและโปรโมชั่นที่ดีที่สุด มั่นใจเป็นงานแสดงรถยนต์ดีที่สุดในระยอง โดยงานมีขึ้น ระหว่าง 26 กันยายน -2 ตุลาคม 2566  ณ ลานกิจกรมชั้น 1ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง

    ภายในงานมีค่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์  เข้าร่วมงานมากมาย อาทิ XPENG, HYUNDAI ,VOLVO, HYUNSAI, KIA ,GWM, BYD, DEPALL, ZEEKR, NETA, MAZDA, ,FORD, TOYOTA , ISUZU,MITSUBISHI ,YAMAHA, HONDA,VASPA, RYUKA เป็นต้น โดยแต่ละค่ายนำรถรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมแคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษมาไว้ในงาน และพลาดไม่ได้กับการเปิดตัวรถไฟฟ้าที่แรกในระยอง กับ -Xpeng G6 -The new Hyundai IONIQ 6  -Zeekr X – Zeekr 009  และพบกับรถไฟฟ้าจาก Toyota รุ่นแรก และรุ่นเดียวที่โตโยต้ามีในประเทศไทย และพิเศษสุด จองรถในงานรับคะแนนเดอะวันการ์ดสูงสุด1,000 คะแนน   

     นอกจากนี้ใน วันที่  28 กันยายน ร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจในประกวดคิดส์ มอเตอร์โชว์ (Kids Motor Show)  และวันที่  29 กันยายน พบกับฟรีคอนเสิร์ต วงโนวันเอลส์  ( NO ONE ELSE ) และกิจกรรมอื่นๆมากมาย

Loading

เทคนิคระยอง ต้อนรับคณะครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสีกัน(วัฒนานันท์อุปถัมภ์) เข้าศึกษาดูงานการใช้เทคโนโลยีการจัดการเรียนการสอน เพื่อนำองค์ความรู้ไปพัฒนาผู้เรียน

     เมื่อวันที่ 26 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมด้วยนายอานุภาพ วาสะสิริ นายชรินทร์ ชูชื่น นายชาคริต รุ่งรัตน์ และนางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง  พร้อมด้วยคณะครู และบุคลากรทางการศึกษา ร่วมต้อนรับ ดร.วีระชัย บุญอยู่ ผอ.โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) กรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนฯ เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้พัฒนาองค์ความรู้ และสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความสามัคคีในองค์กร พร้อมทั้งนำองค์ความรู้มาพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพแก่องค์กร และผู้เรียนต่อไป

     ทั้งนี้สำหรับวิทยาลัยเทคนิคระยอง ถือเป็นสถานศึกษาต้นแบบการจัดการเรียน การสอนอาชีวศึกษา โดยมีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาของวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีสมรรถนะอาชีพ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะโดยผู้เรียนมีงานทำ มีรายได้ระหว่างเรียนด้วยการฝึกประสบการณ์วิชาชีพตรงตามสาขาวิชาตามความถนัดของผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนมีอาชีพ โดยไม่ต้องรอสำเร็จการศึกษา อีกทั้งผู้เรียนยังมีสมรรถนะสูง ตอบโจทย์สถานประกอบการ และการพัฒนาประเทศอีกด้วย.

Loading

เทศบาลตำบลทับมา จ.ระยอง เข้ารับรางวัล Local Award 2024 อปท. ที่มีศักยภาพสูงจาก มท.1

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มอบรางวัล Local Award 2024 ยกย่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ปฏิบัติงานจนเกิดผลสัมฤทธิ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.67 ที่อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ห้องวายุภักษ์ 5 – 6 ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ประจำปี 2567 (Local Award 2024) ให้แก่จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรางวัลน้ำประปาสะอาดดื่มได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และผู้แทนสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เข้าร่วมในพิธี โดยนายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ร่วมเป็นเกียรติฯ ซึ่งเทศบาลตำบลทับมา นำโดยนายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา และน.ส.เรวีญา ขจิตเนติธรรม ปลัดเทศบาลตำบลทับมา รับรางวัลจังหวัดขับเคลื่อนท้องถิ่นให้มีศักยภาพสูงจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย

นายอนุทินฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ประจำปี 2567 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ซึ่งได้กล่าวขอบคุณท้องถิ่นที่ได้นำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการ และปฏิบัติจนมีผลสัมฤทธิ์ ซึ่งการรับรางวัลนี้ เป็นทั้งสัญลักษณ์ของความสำเร็จและแสดงถึงการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพและเป็นการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องของท้องถิ่นให้ ‘ทันโลก ทันสมัย และทันท่วงที’ นอกจากนี้ รางวัลที่ทุกคนได้รับ คือ การได้เห็นรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งส่วนตัวคาดหวังว่าผู้บริหารและบุคลากรของกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะช่วยกันรักษามาตรฐาน และพัฒนาบทบาทการดำเนินงานทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี กระทรวงมหาดไทยต้องพึ่งพาทั้งข้าราชการประจำ ข้าราชการที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ไม่แบ่งแยกกัน’

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ‘ขณะนี้ยังมีหลายจังหวัดที่ยังประสบอุทกภัยอยู่ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนรัฐบาลได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ซึ่งเชื่อมั่นว่าไม่เหนือความสามารถของคนมหาดไทยทั้งหลาย โดยขอเน้นย้ำให้ทุกคนรักษามาตรฐานและเร่งพัฒนาบทบาทการดำเนินงานพร้อมทั้งขับเคลื่อน ส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง สามารถจัดให้มี ‘น้ำดื่มสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน’ และสามารถจัดบริการสาธารณะต่างๆ ที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับและยกระดับการบริการภาครัฐแบบ ‘One Stop Service’ ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและกระบวนการมีส่วนร่วมคิดในการพัฒนาท้องถิ่นของภาคประชาชน พร้อมทั้งต้องตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น’

ด้านนายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดี สถ. กล่าวว่า ‘กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขับเคลื่อนภารกิจ พร้อมทั้งมอบรางวัลให้แก่จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง สามารถจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนได้อย่างมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ โดยในวันนี้ได้มอบรางวัลการประกวดน้ำประปาสะอาดดื่มได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ‘น้ำสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน’ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงน้ำประปาสะอาดที่มีมาตรฐาน พัฒนาขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านทักษะในการนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการระบบประปาหมู่บ้าน และจัดการน้ำให้ได้มาตรฐานอย่างยั่งยืน ตามประกาศหลักเกณฑ์ของกรมอนามัย รวมทั้งสิ้นจำนวน 11 รางวัล แบ่งเป็นระยะที่ 1 จำนวน 3 รางวัล และระยะที่ 2 จำนวน 8 รางวัล’

นายขจร กล่าวเพิ่มเติมว่า ‘การมอบรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ประจำปี 2567 โครงการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Local Performance Assessment: LPA) ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี และในปี พ.ศ. 2567 ได้กำหนดให้มีการประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง (High–Potentiated Local Assessment : HPA) เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างแรงจูงใจสำหรับจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติงานและการเป็นตัวอย่างที่เป็นเลิศ (Best Practice) ที่โดดเด่นใน 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการบริหารจัดการ ด้านการบริหารงานบุคคลและกิจการสภา ด้านการบริหารงานการเงินและการคลัง ด้านการบริการสาธารณะ และด้านธรรมาภิบาล เพื่อนำมาเป็นต้นแบบด้านการพัฒนาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 237 รางวัล’ ได้แก่ 1) รางวัลระดับจังหวัด จำนวน 10 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลจังหวัดขับเคลื่อนท้องถิ่นให้มีศักยภาพสูง จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต สมุทรปราการ กำแพงเพชร ระยอง และปทุมธานี รางวัลจังหวัดส่งเสริมท้องถิ่นให้มีพัฒนาการเป็นเลิศ จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ จังหวัดน่าน ระนอง นราธิวาส ตราด และชัยภูมิ 2) รางวัลระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 227 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพ (LPA และ HPA) สูงสุด จำนวน 7 รางวัล รางวัลท้องถิ่นที่มีพัฒนาการเป็นเลิศ จำนวน 20 รางวัล และรางวัลท้องถิ่นที่มีพัฒนาการเป็นเลิศ อีกจำนวน 200 รางวัล.

Loading

มูลนิธิรักษ์ไทย จับมือยูนิเซฟ ดึงครู นักเรียนและสภาเด็กและเยาวชนร่วมเวทีแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงานในจังหวัดระยอง ภายใต้ ‘โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างปลอดภัยของเยาวชนในโรงเรียนและชุมชน’ มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย.67 ที่ห้องประชุมโรงเรียนเพรักษมาตาวิทยา อ.เมือง จ.ระยอง นายจิรกร ฐาวิรัตน์ รอง ผอ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี-ระยอง เป็นประธานเปิดเวทีแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงานในจังหวัดระยอง ภายใต้ ‘โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างปลอดภัยของเยาวชนในโรงเรียนและชุมชน’ ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิรักษ์ไทย และองค์กรยูนิเซฟ ประเทศไทย มีครู นักเรียนจากโรงเรียนเพรักษมาตาวิทยา และโรงเรียนเขาขะเมาวิทยา และเยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง เข้าร่วมโครงการฯ มี ดร.นิษฐา (รัชไชยบุญ) นัทขว้าง กรรมการมูลนิธิรักษ์ไทย Ms.liaria Favero ผู้แทนจากยูนิเซฟ นางสาวณิชชา ใหญ่โตดี ผอ. โรงเรียนเขาชะเมาวิทยา นางอัจฉรา นิตยวัน ผอ.โรงเรียนเพรักษมาตาวิทยา ร่วมเป็นเกียรติฯ ภายในงานมีกิจกรรมการนำเสนอภาพความสำเร็จของการดำเนินโครงการ และการนำเสนอโครงการนักเรียนและกลไกครูโรงเรียนเขาชะเมาวิทยา และโรงเรียนเพรักษมาตาวิทยา สภาเด็กและเยาวชนระดับจังหวัด รวมทั้งเวทีแลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงาน ซักถาม การแบ่งกลุ่มย่อยสรุปประเด็นแลกเปลี่ยน และนิทรรศการการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นต้น

      ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มุ่งร่วมพัฒนาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โดยมีครู ผู้อำนวยการ เป็นผู้รับฟังและวางแผนในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียนทุกคน

       สำหรับโครงการดังกล่าว ทางมูลนิธิรักษ์ไทย และยูนิเซฟ มีการดำเนินการใน 12 โรงเรียน และ 6 ชุมชน ของ 6 จังหวัดๆ ละ 2 โรงเรียน และ 2 สภาเด็กและเยาวชน ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน อยุธยา อุบลราชธานี ปัตตานี และระยอง ประกอบด้วย 2 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเพรักษมาตาวิทยา โรงเรียนเขาชะเมาวิทยา และสภาเด็กและเยาวชน จ.ระยอง.

Loading

สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดระยอง จัดงานมหกรรมวิชาการ ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ(Learn to Earn) มุ่งแนะแนวช่องทางการฝึกอาชีพแก่นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชน.

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.ย.ที่โดมเอนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายธวัชชัย อุ่ยพานิช อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิชาการ ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดระยอง มี ดร.กัญจน์โชติ สหพัฒนสมบัติ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง และสิบโทไชยยันต์ เกิดเหมาะ ศึกษาธิการจังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติฯ มีนักเรียน นักศึกษา และ ประชาชน ร่วมงาน ภายในงานมีบูธกิจกรรมแนะแนวและฝึกอาชีพ ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน รวม 68 บูธ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ภายใต้โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนของ ศกร. ตำบลทุกแห่ง นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงครั้งนี้ด้วย

      ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการจัดฝึกอาชีพให้กับนักศึกษาและประชาชน ทั่วไป ที่ต้องการเข้าสู่อาชีพใหม่ เพิ่มโอกาสหรือพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิมให้มีรายได้ เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถและความถนัดของตนเอง และเพื่อแนะแนวช่องทางการฝึกอาชีพช่วยให้นักศึกษาสามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียน รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนให้เกิดช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนอีกด้วย.

Loading

ภาคเอกชนใน จ.ระยอง มอบทุนการศึกษารวมเป็นเงิน 5 แสนบาท เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงปริญญาตรีในตำบลทับมา

     เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ก.ย.67 ที่อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนชุมชนวัดทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาบุตรหลานชาวบ้านในตำบลทับมา โดยมีผู้บริหาร ผู้แทนภาคเอกชนร่วมมอบทุน จำนวน 392 ทุน รวมเป็นเงิน 505,500 บาท ซึ่งเป็นทุนจากภาคเอกชนในพื้นที่ จ.ระยอง ประกอบด้วย บริษัทเอสซีจีซี เคมิคอลส์ จำกัด(มหาชน) จำนวน 320 ทุน บริษัทอุตสาหกรรมน้ำปลาระยอง จำกัด 54 ทุน โรงเรียนกวงฮั้ว 15 ทุน ทุนครอบครัวชูเชิด จำนวน 3 ทุน และยังมีทุนของชุมชนในตำบลทับมาทั้ง 8 หมู่บ้านอีกจำนวนหนึ่งด้วย

      โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและส่งเสริมการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาในเขตพื้นที่ตำบลทับมา มีทุนเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในชุมชนด้วย โดยมีนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงระดับปริญญาตรีเข้ารับทุนการศึกษาดังกล่าว.

Loading

เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง จัดงาน ‘R ชีวะ จิตอาสา ชิม ช้อป ชิลล์’ มุ่งสร้างทางเลือกในการศึกษาสายอาชีวศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษา และสามารถนำทักษะวิชาชีพไปประกอบอาชีพในอนาคต รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนวทางการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยให้ผู้ปกครองได้รับทราบ

     เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ก.ย.67 ที่ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงาน ‘R ชีวะ จิตอาสา ชิม ช้อป ชิลล์’ ภายใต้ โครงการเสริมสร้างภาพลักษณ์สถานศึกษายุคใหม่ ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง มีนายกิตติพงศ์ อุระวัตร นอภ.บ้านฉาง นายวีระชัย สมบัติกำไร ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง นายศุภกิจ อุ่นเมือง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานอาคารและระบบศูนย์การค้าโรบินสันไร้สไตล์บ้านฉาง นางนภาพัฒน์ อู่เจริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ร่วมงานฯ

       ภายในงานมีการจัดนิทรรศการผลงานของนักเรียน นักศึกษา สาขาวิชาต่างๆ ตลาดนัด ฝีมือนักเรียนนักศึกษา สนับสนุนให้มีรายได้ แข่งขันส้มตำลีลา การประกวดชุดรีไซเคิล แข่งขันแฟนพันธุ์แท้ระยอง แข่งขัน ROV แข่งขัน E-sports แบบเดี่ยว เกมฟุตบอล กิจกรรมเล่นเกมผ่าน VR กิจกรรมแรลลี่โรบินสัน รวมทั้งมีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น อาทิ การฝึกอบรม RIETC RoBot Resin การสอนแต่งหน้าลาเต้อาร์ต และการฝึกอบรมเขียนโปรมแกรมควบคุมหุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม และมีการแข่งขันหุ่นยนต์อีกด้วย โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

        ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกในการศึกษาสายอาชีวศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษา และสามารถนำทักษะวิชาชีพไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ รวมทั้งเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปเข้าใจแนวทางการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพของวิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ และเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย.

Loading

พาณิชย์พิษณุโลกคว้ารางวัลเลิศรัฐ ’67 จากผลงานส่งเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง

     สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก โชว์ผลงานโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างมูลค่าเพิ่มมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พร้อมคว้ารางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 เผยสามารถแก้ไขปัญหาผลผลิต สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

     นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมรับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 ระดับดี (สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทสัมฤทธิ์ผลประชาชนมีส่วนร่วม) ในผลงาน โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างมูลค่าเพิ่มมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง แก้ไขปัญหา สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางสาวหทัยรัตน์ คีรีวัลย์ หัวหน้ากลุ่มทะเบียนธุรกิจและอำนวยสะดวกทางการค้า ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา   โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นผู้มอบรางวัล 

      โดยนางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกมีพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยมีพื้นที่เพาะปลูก 88,206 ไร่/ปริมาณผลผลิต 51,226 ต้น/ปี ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงฤดูกาลเกษตรกรมักจะต้องเชิญกับปัญหาด้านการตลาด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลกจึงได้มีการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา เช่น ด้านการตลาด การสร้างองค์ความรู้ การแปรรูปโดยนวัตกรรม สร้างมาตรฐานสินค้า และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการทำการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ รวมทั้งมีการส่งเสริมพัฒนามาตรฐานสินค้า และการส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565

“เราใช้การตลาดนำการผลิตผ่านทีมพาณิชย์ ขับเคลื่อนโดย เซลล์แมนจังหวัดพิษณุโลก และเซลล์แมนต่างประเทศเป้าหมาย เช่น ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ และส่งเสริมให้มีการใช้นวัตกรรมในการแปรรูปให้ได้มูลค่าเพิ่ม พร้อมส่งเสริมการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยยึดแนวทางการทำงานให้อยู่ภายใต้การมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ เมื่อได้รับรางวัลนี้ก็รู้สึกภูมิใจและดีใจมาก ถือว่าการทำงานของเราบรรลุเป้าหมาย ทั้งความสำเร็จในเนื้องานและการได้รับการยอมรับ มีคนเห็นคุณค่า” พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลกกล่าว.

       ทั้งนี้ รางวัลเลิศรัฐเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่มอบให้หน่วยงานภาครัฐ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในความมุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จ มีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงานภาครัฐทั้งปวง.

Loading

สผ.จับมือเทศบาลตำบลทับมา เปิดกิจกรรมการขับเคลื่อนการจัดทำผังชุมชนเพื่อรักษาพื้นที่สีเขียวในเมือง ภายใต้ความร่วมมือของ สผ.’กิจกรรมชวนเครือข่าย ปลูก ปรับ เปลี่ยน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืน’

       เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา เป็นประธานเปิดกิจกรรมการขับเคลื่อนการจัดทำผังชุมชนเพื่อรักษาพื้นที่สีเขียวในเมือง ภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ‘กิจกรรมปลูก ปรับ เปลี่ยน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืน’ โดยมีผู้แทนภาครัฐ สถานศึกษา เอกชน กลุ่มเครือข่าย ประชาชนในพื้นที่ 80 เข้าร่วมโครงการ ภายในงานมีการเสวนาหัวข้อ ‘พื้้นที่สีเขียว จากนโยบายสู่ความร่วมมือ’ โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา ดร.กฤษนัยน์ เจริญจิตร คณบดีคณะภูมิสารสนเทศศศศาสตร์ คุณประไพ คชรินทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา และนายอภิชาติ ต้นน้ำนิ่ง Senior CSR Office บริษัท พีทีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) รวมทั้งมีกิจกรรมฐานเรียนรู้การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ด้วย

       ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลพื้นที่สีเขียว และผังชุมชนฯ ของเทศบาลตำบลทับมา และขับคลื่อนการดำเนินการด้านพื้นที่สีเขียวภายใต้ผังชุมชนฯ รวมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองด้านพื้นที่สีเขียวให้เห็นว่าพื้นที่สีเขียว สามารถสร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตของคนและเมืองได้ รวมทั้งสร้างเครือข่ายในการร่วมมือขับเคลื่อนการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวเชิงพื้นที่ได้อีกด้วย.