ตำรวจภูธรระยอง สภ.เมืองระยอง ลงนาม MOU กับเทคนิคระยอง จับนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมโครงการตำรวจช่าง มุ่งให้มีจิตเป็นสาธารณะทำความดี ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวซ่อมยานพาหนะจอดเสียโดยเฉพาะในช่วงวันหยุด และช่วงกลางคืน

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ส.ค.68 ที่ห้องสัมมนาอาชีวศึกษา อาคารอำนวยการ ชั้น 3 วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมด้วย ดร.ชรินทร์ ชูชื่น นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร นายชาคริต รุ่งรัตน์ รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง ลงนาม MOU ความร่วมมือจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อร่วมพัฒนาคนสมรรถนะสูง สร้างอาชีพที่ทันสมัยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีกับ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง และนายสุขพล โตวิชัย ประธานตำรวจช่าง สภ.เมืองระยอง ในการส่งนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมโครงการตำรวจช่าง (ช่วยเหลือ ปชช.และนักท่องเที่ยว)

     พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า พิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าว สืบเนื่องจากโครงตำรวจช่าง เกิดจากการตั้งขึ้นของ สภ.เมืองระยอง เพื่อช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในเขตรับผิดชอบของ สภ.เมืองระยอง แล้วประสบปัญหาเกี่ยวกับยานพาหนะที่ใช้เดินทางโดยเฉพาะในวันหยุด และช่วงเวลากลางคืนจอดเสีย ไม่สามารถหาร้านซ่อมได้ หรือกรณีรถสตาร์ทไม่ติด เรื่องแบตเตอรี่ชาร์จไม่ทำงาน ยางรั่ว ยางแตก เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ได้รับการอำนวยความสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สภ.เมืองระยอง จึงได้แสวงหาความร่วมมือที่สามารถให้บริการและช่วยเหลือประชาชน ได้สำเร็จลุล่วงเป็นไปด้วยดี จึงได้ร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อนำนักเรียน นักศึกษา ปวช. และ ปวส. สาขาช่างยนต์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมโครงการตำรวจช่าง เป็นเครือข่ายในการช่วยประชาชน และนักท่องเที่ยวต่อไป

    ด้าน นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง เปิดเผยว่า การลงนาม MOU กับโครงการตำรวจช่างดังกล่าว นักเรียน นักศึกษา จะได้ประโยชน์ในการพัฒนาประสบการณ์วิชาชีพที่เรียน ตลอดจนได้รับความรู้ และทักษะจากประสบการณ์จริง เพื่อนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพในอนาคต และเข้าทำงานในสถานประกอบการ นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสาธารณะทำความดี ตามแนวทางจิตอาสาพระราชทาน รวมทั้งการเป็นพลเมืองที่ดีของชาติในการช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวอีกด้วย.

เทคนิคระยอง เติมความรู้ครู และบุคลากรทางการศึกษา การใช้ภาษาอังกฤษ มุ่งพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะสูง

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ส.ค.ที่ห้องสัมมนาอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้โครงการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถด้านภาษาและทักษะดิจิทัล เพื่อพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะสูง สอดรับกับมาตรฐานสากล ประจำปีงบประมาณ 2568

    ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยมุ่งหวังพัฒนาและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคณะครู และบุคลากรทางการศึกษาของวิทยาลัยให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษในระดับการติดต่อสื่อสารได้อย่างมีคุณภาพ.

เทคนิคระยอง เปิดอบรมจัด ‘งานเลี้ยงแบบคานาเป้ม็อกเทล’ แก่ครู นักเรียน นักศึกษา มุ่งผลิตกำลังคนคุณภาพรับ EEC

     เมื่อวันที่ 1 ส.ค.68 ที่ศูนย์การเรียนรู้อาหารถิ่นระยอง ร้านใบชะมวง วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผู้เรียนด้านทักษะการบริการอาหาร และเครื่องดื่มในรูปแบบงานจัดเลี้ยงคานาเป้ม็อกเทล จัดโดยแผนกวิชาโรงแรม วิทยาลัยเทคนิคระยอง ระหว่างวันที่ 1-2 ส.ค.68 นี้ โดยภายในมีการอบรมให้ความรู้การวางแผนออกแบบ การฝึกปฏิบัติจัดเลี้ยงรูปแบบคานาเป้ม็อกเทล การคำนวนต้นทุน และจัดจำหน่าย รวมทั้งการฝึกปฏิบัติบาริสต้า เป็นต้น

     ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากลรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ นิสัยอุตสาหกรรม คุณธรรม จริยธรรมและความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตในเขต EEC รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกับสถานประกอบการในการผลิตและพัฒนากำลังรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายในรูปแบบ EEC Model Type A และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถคณาจารย์ ครู บุคลากรทางการศึกษาและครูฝึกในสถานประกอบการรองรับการจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับการพัฒนาภาคการผลิตและบริการในยุคประเทศไทย 4.0 ตลอดจนเพื่อจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้นักศึกษาด้านทักษะการบริการอาหาร และเครื่องดื่มในรูปแบบงานจัดเลี้ยงคานาเป้ม็อกเทลในการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพในเขต EEC.

ผู้ว่าฯ ระยอง และผู้การระยอง แถลงจับกุมผู้ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดในห้วงครึ่งเดือน จับผู้ต้องหา-ยาเสพติดเพียบ ยึดทรัพย์กว่า 7 ล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ส.ค.68 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อมฝ่ายปกครองทั้ง 8 อำเภอ สถานีตำรวจ 16 แห่ง สังกัดภูธรจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวผลการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ในห้วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ ตามนโยบายการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ‘No Drugs No Dealers’ ผนึกกำลังชุมชนปลอดภัยยาเสพติด ให้เห็นผลในระยะ 3 เดือน โดยฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันในวันที่ 1 ส.ค.68 นี้ ผลปรากฏว่า ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 269 แห่ง เป้าหมาย 18 เครือข่าย จับกุมผู้ค้า-ผู้เสพ และผู้ครอบครองยาเสพติดได้ 341 ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้า 39,590 เม็ด ยาไอซ์ 9,979 กรัม อาวุธปืน 11 กระบอก และยึดทรัพย์รวม 7,401,165 บาท

นายไตรภพ เปิดเผยว่า จังหวัดระยอง ได้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังตลอดมาตามนโยบายของรัฐบาล และจังหวัดระยอง ประกอบกับตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายปกครองทั้ง 8 อำเภอ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และสถานีตำรวจ 16 แห่ง ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด จนสามารถจับกุมผู้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และยึดของกลางยาเสพติดและอาวุธจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งจะมีการขยายผลหาเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป เพื่อให้ปัญหายาเสพติดเบาบางลง ซึ่งผลการกวาดล้าง และจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว เป็นการบูรณาการระหว่างฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกส่วนหนึ่งเป็นการแจ้งเบาะแสของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติด เพื่อความสุขและอนาคตของประชาชนจังหวัดระยอง

นายไตรภพ เปิดเผยต่อว่า สำหรับผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความเข้มแข็ง ซึ่งตนพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดนั้น ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามในกระบวนจับกุม ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบสวนตามวิธีการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และหากพบก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป.

ผู้เข้าอบรมหลักสูตรนักบริหารการงบประมาณระดับกลาง (นงก.) รุ่นที่ 7 ดูงานการจัดการเรียนการสอนเทคนิคระยองในการพัฒนากำลังคนตอบสนอง EEC

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค.68 ที่วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง นายวีระชัย สมบัติกำไร ผอ. วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง พร้อมด้วย ดร.ชรินทร์ ชูชื่น นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร นายชาคริต รุ่งรัตน์ รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน นักศึกษาให้การต้อนรับ น.ส.รุ่งทิพย์ ลิมปาภินันท์ ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ และ ผอ. โครงการอบรมหลักสูตรนักบริหารการงบประมาณระดับกลาง (นงก.) รุ่นที่ 7 น.ส.พัทธนัญพร พิพิธวรโภคิน ประธานรุ่นโครงการหลักสูตรนักบริหาร และคณะผู้เข้าอบรมหลักสูตรนักบริหารการงบประมาณระดับกลาง (นงก.) รุ่นที่ 7 เนื่องในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอนวิทยาลัยเทคนิคระยอง ในการพัฒนากำลังคนตอบสนองตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในพื้นที่ EEC โดยได้เยี่ยมชมศูนย์ AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ เพื่ออุตสาหกรรม, การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการวิชาชีพผ่านการจัดแสดงบริการอาหาร และซอฟต์พาวเวอร์, ผลิตภัณฑ์ของนักเรียน นักศึกษา, การจัดแสดงการจัดการเรียนการสอนแผนกวิชาชีพ 22 แผนกสาขา และหมวดวิชาภาษาต่างประเทศ

       ทั้งนี้การศึกษาดูงานของผู้เข้าอบรมหลักสูตรนักบริหารการงบประมาณระดับกลาง (นงก.) รุ่นที่ 7 ดังกล่าว มุ่งให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับประสบการณ์จากการศึกษาดูงาน นำไปปรับใช้ในการทำงาน เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเกิดความคุ้มค่าที่สุด.

กาชาดจังหวัดระยอง มอบรถจักรยานให้นักเรียนยากไร้ในทุกอำเภอ ปั่นไปโรงเรียน ภายใต้ ‘โครงการเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ปันน้ำใจให้รถจักรยานนักเรียนผู้ยากไร้ ประจำปีงบประมาณ 2558’

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ก.ค.68 ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนางชนินันท์ วงศ์ไตรรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง น.ส.สลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม ปลัดจังหวัดระยอง นายกิติพงศ์ อุระวัตร นอภ.บ้านฉาง และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ร่วมมอบรถจักรยาน และชุดนักเรียนจำนวนหนึ่งให้กับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ใน 8 อำเภอของจังหวัดระยอง จำนวน 100 คน ประกอบด้วย อำเภอเมืองระยอง และอำเภอแกลง อำเภอละ 20 คัน อำเภอวังจันทร์ อำเภอนิคมพัฒนา อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง อำเภอปลวกแดง อำเภอเขาชะเมา อำเภอละ 10 คัน ภายใต้ ‘โครงการเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ปันน้ำใจให้จักรยานนักเรียนผู้ยากไร้ ประจำปีงบประมาณ 2558’

     นางชนินันท์ วงศ์ไตรรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือนักเรียนยากไร้ที่มีที่พักอาศัยห่างไกลโรงเรียนให้ได้มีรถจักรยานใช้ในการเดินทางมาโรงเรียนได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นความต้องการของเด็กนักเรียนด้วย รวมทั้งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนที่อยู่ห่างไกลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เหล่ากาชาดจังหวัดระยอง จะมีการสำรวจเด็กนักเรียนที่ต้องการรถจักรยานปั่นไปโรงเรียนเพิ่ม ซึ่งเป็นโครงการต่อไปในการช่วยเหลือให้เด็กนักเรียนที่ยากไร้ได้มีรถจักรยาน เพื่อให้เดินทางไปเรียนได้สะดวกขึ้นต่อไป.

    ผู้ว่าฯ ระยอง และผู้การระยอง แถลงจับกุมผู้ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดในห้วงครึ่งเดือน จับผู้ต้องหา-ยาเสพติดเพียบ ยึดทรัพย์กว่า 7 ล้าน

     เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ส.ค.68 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยอง นายกำธร  เวหน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมนายอำเภอ  ฝ่ายปกครองทั้ง 8 อำเภอ สถานีตำรวจ 16 แห่ง สังกัดภูธรจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวผลการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ในห้วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ ตามนโยบายการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ‘No Drugs No Dealers’ ผนึกกำลังชุมชนปลอดภัยยาเสพติด ให้เห็นผลในระยะ 3 เดือน โดยฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันในวันที่ 1 ส.ค.68 นี้ ผลปรากฏว่า ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 269 แห่ง เป้าหมาย 18 เครือข่าย จับกุมผู้ค้า-ผู้เสพ และผู้ครอบครองยาเสพติดได้ 341 ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้า 39,590 เม็ด ยาไอซ์ 9,979 กรัม อาวุธปืน 11 กระบอก และยึดทรัพย์รวม 7,401,165 บาท

          นายไตรภพ เปิดเผยว่า จังหวัดระยอง ได้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังตลอดมาตามนโยบายของรัฐบาล และจังหวัดระยอง ประกอบกับตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายปกครองทั้ง 8 อำเภอ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และสถานีตำรวจ 16 แห่ง ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด จนสามารถจับกุมผู้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และยึดของกลางยาเสพติดและอาวุธจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งจะมีการขยายผลหาเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป เพื่อให้ปัญหายาเสพติดเบาบางลง ซึ่งผลการกวาดล้าง และจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว เป็นการบูรณาการระหว่างฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกส่วนหนึ่งเป็นการแจ้งเบาะแสของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติด เพื่อความสุขและอนาคตของประชาชนจังหวัดระยอง

         นายไตรภพ เปิดเผยต่อว่า สำหรับผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความเข้มแข็ง ซึ่งตนพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดนั้น ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามในกระบวนจับกุม ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบสวนตามวิธีการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และหากพบก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป….0000

เทคนิคระยอง ลงนาม MOU กับสถานประกอบการ และสถานศึกษารวม 7 แห่ง จัดการศึกษาระบบทวิภาคี มุ่งพัฒนาคนสมรรถนะสูง สร้างอาชีพที่ทันสมัย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

     เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 ก.ค.ที่ห้องสัมมนาอาชีวศึกษา อาคารอำนวยการ ชั้น 3 วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง ลงนาม MOU ความร่วมมือจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อร่วมพัฒนาคนสมรรถนะสูง สร้างอาชีพที่ทันสมัย ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีกับสถานประกอบการ และสถานศึกษา 7 แห่ง แบ่งเป็นสถานประกอบการร่วมจัดการศึกษาอาชีวศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยี 1 แห่ง สถานประกอบการร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคี 5 แห่ง และสถานศึกษาสังกัด สพฐ., สกร. และอปท. 1 แห่ง โดยมีผู้แทนลงนาม MOU ประกอบด้วย ม.ล.จีริเนตร กิติยากร ผจก. ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โรงแรมเคปแอนด์แคนทารี, นายเจิ้ง จินชง กก. ผจก. บ. นิว ไทย วีล เมนูแฟคเจอริ่ง จก., น.ส.รุ้งลาวัลย์ พุ่มจันทร์ ผจก. อาวุโส โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช รีสอร์ท, น.ส.ปัทมา อาภรณ์รัตน์ รอง ผจก.ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ บ. อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จก.(คลอ อัลคาลี ดีวิชั่น), นายนพดล บุญสา ผอ. สายงานการผลิต บ. บีบีจีไอ ไอโอเอทานอล(ฉะเชิงเทรา) จก., น.ส.สายไหม ศิริเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ. เดอะเบสท์ฟาร์มเมอร์ จก. และนายอรรถพล วงศ์บุปผา ผอ. โรงเรียนระยองวิทยาคมปากน้ำ มีนายชรินทร์ ชูชื่น นายอานุภาพ วาสะสิริ นายชาคริต รุ่งรัตน์ รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง ครู บุคลากรทางการศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยอง และเจ้าหน้าที่ของสถานประกอบการ สถานศึกษาทั้ง 7 แห่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยการลงนาม MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ สามารถพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะเท่าทันเทคโนโลยีปัจจุบันและเชื่อมโยงองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาการทำงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต 2. เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้านความรู้ ด้านทักษะและด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบตามมาตรฐานการเรียนรู้แต่ละระดับการศึกษาการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี 3. เพื่อจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ระดับ ตลอดจนยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ 4.สร้างจูงใจให้สถานประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ เกิดความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาผู้สอนทั้งในสถานศึกษาและสถานประกอบการ 5. สร้างแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้ของผู้เรียน พัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็นศตวรรษที่ 21 และ 6. รองรับความต้องการกำลังคนในการพัฒนาประเทศ การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี จึงเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่กำหนดสมรรถนะของผู้สำเร็จการศึกษาจากความต้องการของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอย่างแท้จริง

       นอกจากนี้ในพิธีลงนามดังกล่าว ทาง บ. นิว ไทย วีล เมนูแฟคเจอริ่ง จก. ยังมอบอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนแก่วิทยาลัยเทคนิคระยองอีกด้วย.

จ.ระยอง ปล่อยขบวนรถขนส่งสิ่งของ อุปโภค-บริโภคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

      เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค.68 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดระยอง ชั้น 1 มุขหน้า ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายกัฬชัย เทพวรชัย น.ส.สลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ภาคเอกชน และผู้แทน บ.บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด บ.ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) และ บ.เอสซีจีซี ได้ร่วมปล่อยแถวขบวนรถขนส่งสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค ที่ประชาชนชาวจังหวัดระยอง ได้ร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ครั้งที่ 1 โดยสิ่งของทั้งหมดมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระยอง จำนวน 43 ราย จำนวน 354 รายการ อาทิเช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน กระดาษทิชชู่ และยารักษาโรค เป็นต้น รวมทั้งมีเงินจำนวน 51,000 บาท ซึ่งขบวนรถขนส่งสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภคดังกล่าว จะนำไปมอบให้พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีพี่น้องประชาชน ผู้อพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 14 แห่ง จำนวน 6,800 คน

      นายไตรภพ เปิดเผยว่า สำหรับศูนย์รับบริจาคสิ่งของอุปโภค-บริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ โดยทางจังหวัดระยอง เปิดรับบริจาคร่วมกับในส่วนของอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ส่วนที่ศูนย์รับบริจาคศาลากลางจังหวัด ขณะนี้มีประชาชนชาวจังหวัดระยอง แจ้งความประสงค์เข้ามาบริจาคเรื่อยๆ ซึ่งทางจังหวัด จะดูสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ จึงจะปิดศูนย์ฯ.