เจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม จ.ระยอง นำคณะสื่อมวลชน ศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม จ.พระนครศรีอยุธยา หลังมีชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.บริษัท เดอะ พราว พาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท มีขวัญ พาวเวอร์ จำกัด เจ้าของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นำคณะสื่อมวลชน จ.ระยอง ไปศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมของบริษัท รีคัฟเวอรี่ เฮ้าส์ จำกัด อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ กรรมบริหารฯ พาเยี่ยมชม ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้ดำเนินการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมมาแล้วกว่า 6 ปี สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างไม่มีความขัดแย้ง การศึกษาดูงานครั้งนี้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามในประเด็นต่างๆ ที่เป็นข้อกังวลสงสัยด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชน จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการปฏิบัติจริงของโรงงาน ดูข้นตอนการจัดเก็บวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง กระบวนการผลิต การเผาไหม้ การควบคุมระบบต่างๆ ของโรงงานโดยละเอียด
นายศุภวัฒน์ กล่าวว่า การขยายโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการจัดการลดขยะอุตสาหกรรมและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้ผลผลิตคือไฟฟ้า เสริมระบบความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นวัตถุประสงค์หลัก สำหรับข้อกังวลเรื่องกลิ่น และมลภาวะต่อชุมชนนั้น เราขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะเชื้อเพลิงที่เรานำมาใช้นั้น ไม่ใช่ขยะจากครัวเรือน ไม่ใช่เศษอาหาร ไม่ใช่ขยะอิเล็คทรอนิกส์ หรือขยะกากอุตสาหกรรมที่มีพิษ ไม่ใช่เหล็ก โลหะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถนำมาใช้ในกระบวนการผลิตในโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมประเภทนี้ได้ ใช้เชื้อเพลิงหลัก 6 ประเภทจากโรงงานอุตสาหกรรมได้แก่ เศษผ้า เศษกระดาษ เศษยาง เศษหนัง เศษไม้ และ พลาสติกเท่านั้น ส่วนข้อกังวลใจด้านน้ำเสีย โรงไฟฟ้านี้ใช้น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการกรองให้สะอาด (ระบบ RO) และดึงสารเคมีในน้ำออกจนบริสุทธิ์ จึงเหมาะสมใช้ในกระบวนการต้มน้ำปั่นกังหันผลิตไฟฟ้า น้ำในระบบใช้หมุนเวียนไม่มีการปล่อยน้ำเสียออกสู่ภายนอกโรงงานจึงไม่มีน้ำเสียต่อแหล่งน้ำผืนดินและสิ่งแวดล้อม สำหรับข้อกังวลใจด้านผลกระทบทางอากาศและสุขภาพนั้น โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมนี้เป็นแบบเดียวกันที่จะมีโครงการสร้างขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปลวกแดง จะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ทั้งนี้เพราะกระบวนการเผาไหม้จะใช้ควบคุมอุณหภูมิที่ 850–950 องศาเซลเซียส ให้เวลาเผาไหม้มากกว่า 2 วินาทีทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ จะไม่มีควันและกลิ่น และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ลดสารก่อมะเร็ง (ไดออกซิน) ได้กว่า 99 ฝุ่นละออง มีระบบถุงกรองฝุ่นอุตสาหกรรม กรองได้ถึง PM 2.5 สำหรับสารไนโตรเจนออกไซต์ จัดการโดยคุมระบบเผาไหม้ ไม่เกิน 1,100 องศาเซลเซียส และออกซิเจนในการเผาไหม้ โดยมาตรการทางกฎหมายและหน่วยงานภาคราชการจะมีการติดตามตรวจสอบควบคุมตลอดเวลา วัดแบบเรียลไทม์ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับและรายงานผลต่อสาธารณะ ชุมชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา ส่วนขี้เถ้าเป็นขี้เถ้าที่ไม่มีสารพิษเจือปนเพราะวัตถุดิบที่นำมาทำเชื้อเผลิงไม่มีสารพิษเจือปน และมีการนำไปฝังกลบในบ่อที่ได้อนุญาตจัดการที่ทางราชการที่กำหนดไว้เท่านั้น (อาทิ พื้นที่ สระบุรี สมุทรปราการ เป็นต้น) โดยจะไม่มีเศษขยะต่างๆ ตกค้างในพื้นที่ จ.ระยอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คณะสื่อมวลชน จ.ระยอง ได้เยี่ยมชมขั้นตอนการทำงานของโรงงานฯ แล้ว ได้เสนอให้ทางบริษัทเจ้าของโครงการฯ ที่จะมาทำโครงการโรงไฟฟ้าฯ ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้เปิดเวทีให้ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีความกังวลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะ โดยทางโครงการฯ ต้องรับฟัง พร้อมตอบคำถามในทุกประเด็นข้อสงสัย สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนต่อไป.