Loading

ผู้ว่าฯ ระยอง ประชุมกรมการจังหวัด มอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการ ขอทุกภาคส่วนร่วมทำงาน พร้อมรับฟังและแก้ไขปัญหาจริงจัง

     เมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดระยอง ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมภักดีศรีสงคราม ศาลากลางจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับส่วนราชการจังหวัดระยองครั้งแรก หลังเดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และเข้าทำงานวันแรกเมื่อวานนี้ โดยมีนายกัฬชัย เทพวรชัย นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี นายกำธร เวหน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พล.ต.ต ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการ อปท. หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมประชุม

    ทั้งนี้ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด โดยเปิดเผยว่า การทำงานนั้น ตนตั้งใจจะมาทำงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และจะดูแลในทุกมิติ เน้นทำงานเป็นทีม ในเบื้องต้นจะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยม และรับฟังปัญหาจากส่วนราชการ อปท. และอำเภอทั้ง 8 อำเภอทันทีในสัปดาห์หน้า โดยจะให้สำนักงานจังหวัดกำหนดตารางลงพื้นที่ต่อไป สำหรับในส่วนของนโยบายนั้น จังหวัดระยอง ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทั้งภาคอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว และภาคเกษตร ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรม จะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน และผู้ประกอบการ ส่วนภาคท่องเที่ยว จากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย แต่อย่างไรก็ตามภาคท่องเที่ยวคงไม่เน้นหรือไปแข่งกับพัทยา และชลบุรี ที่เน้นความเป็นเมืองศิวิไลซ์ จะเน้นขายธรรมชาติ เพื่อเป็นตัวดึงดูด นทท.ทั้งชาวไทย และต่างชาติ เข้ามาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ขณะที่ภาคเกษตร จังหวัดระยอง เป็นเมืองแห่งผลไม้ มีผลไม้ขึ้นชื่อทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด และอื่นๆ ซึ่งจะมีการส่งเสริมทั้งการผลิตคุณภาพและท่องเที่ยวที่คงเอกลักษณ์เป็นเมืองผลไม้ต่อไป เพื่อพัฒนาจังหวัดระยองให้ก้าวหน้า และแข็งแกร่งที่สุด

Loading

สสปท. กระทรวงแรงงาน เปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในภูมิภาค จ.ระยอง มุ่งสร้างแรงงานที่มีทั้งทักษะ ทันสมัย และทำงานอย่างปลอดภัย

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ส.ค.68 ที่ห้องสุนทรภู่ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่นระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน ‘ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในส่วนภูมิภาค จังหวัดระยอง ประจำปี 2568’ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หรือ สสปท. กระทรวงแรงงาน มีนาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ นายมนูศักดิ์ กลิ่นดี คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ดร.สรวิชญ์ เปรมชื่น คณะทำงานรัฐมนตรี ดร.นันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผอ. สสปท. นายกำธร เวหน รอง ผวจ.ระยอง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และพี่น้องแรงงานในสถานประกอบกิจการเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ภายในงานมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์พิจารณากิจกรรมการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ประจำปี 2568 (Zero Accident Campaign 2025) ภาคตะวันออก จำนวน 92 รางวัล รวมทั้งมีเวทีเสวนาและบูธนิทรรศการด้านความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย

       นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า จังหวัดระยอง ถือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ และเป็นหัวใจหลักของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) งานในวันนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเวทีวิชาการ แต่ยังเป็นเวที ‘เรียนรู้ร่วมกัน’ ของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งสิ้นกว่า 6 แสนแห่ง โดยในปี 2568 นี้ มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ Zero Accident แล้ว 92 แห่ง คิดเป็นประมาณร้อยละ 0.015 ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานคาดหวังว่า ในปีถัดไปจะมีสถานประกอบการเข้าร่วมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 120 แห่ง เพื่อเร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออก

      ด้าน ดร.นันทชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในรูปแบบการเสวนาและนิทรรศการ เพื่อให้สถานประกอบการและแรงงานสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ‘เป้าหมายของเราคือการสร้างแรงงานที่มีทั้งทักษะ ทันสมัย และทำงานอย่างปลอดภัย ซึ่งจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยในอนาคต’.

Loading

ผู้ว่าฯ ระยองคนใหม่ ตระเวนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนเข้าทำงานวันแรก มี หน.ส่วนราชการ ภาคเอกชน และ ประชาชนต้อนรับอบอุ่น เผยพร้อมทุ่มเทกำลังเต็มกำลังความสามารถพัฒนาระยองให้ก้าวหน้า

       เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯ ระยองป้ายแดง พร้อมด้วยนางบุษบา บุญญลักษม์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยองป้ายแดงเช่นเดียวกัน เข้าทำงานวันแรกได้ตระเวนสักการะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดระยอง โดยเข้าสักการะพระพุทธอังคีรสจำลอง, ศาลพระพรม, พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณภายในศาลากลางจังหวัด และไหว้พระพุทธรูปภายในห้องทำงาน และเปิดให้ทุกภาคส่วนเข้าแสดงความยินดี จากนั้นเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดระยอง ประกอบด้วย ศาลหลักเมือง, ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดลุ่ม, พระพุทธอังคีรส สวนศรีเมือง, ก่อนจะเดินทางเข้าจวนผู้ว่าราชการ จังหวัด สักการะศาลพระภูมิ,พระพุทธรูปภายในจวนไร้พรมแดน, สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผญบ. ผู้นำ อปท.ภาคเอกชน และประชาชนเดินทางมาต้อนรับจำนวนมากบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยมีการนำอาหารคาวหวานมาเบี้ยงต้อนรับด้วย พร้อมกันนี้ผู้ว่าฯ ระยอง ยังได้เดินทางไปกราบนมัสการพระวชิรปัญญากร เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอวาสวัดป่าประดู่, พระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัด, เจ้าอาวาสวัดเนินพระ อ.เมืองระยองด้วย

       นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯ ระยอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องขอขอบคุณพี่น้องที่รู้จักมักคุ้นกันเดินทางมาส่ง และขอบคุณทุกภาคส่วนในระยองด้วย ที่มาให้การต้อนรับ โดยชีวิตการรับราชการของตนนี้ไปมาแทบทุกภาค ซึ่งการมาดำแหน่งผู้ว่าฯ ระยอง ได้ทำการบ้านมาพอสมควร ซึ่งที่เห็นโดดเด่นจะเป็นรายได้ต่อหัวของคนระยองสูงเป็นอันดับ 1 เมื่อวันก่อนได้พบเลขา EEC ซึ่งจะได้มีการหาแนวทางพัฒนาของจังหวัด และรถความเร็วสูงหารือร่วมกันต่อไปด้วย ทั้งนี้ตนเป็นคนตั้งใจจริงในการทำงาน เมื่อมาเป็นคนระยองแล้ว ถึงจะไม่ได้เป็นโดยกำเนิด ก็พร้อมที่ทุ่มเทกำลังความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาจังหวัดระยอง โดยเฉพาะอุตสาหกรรม, ท่องเที่ยว เกษตร, ตนตั้งใจเกิน 100 จะทำงานให้จังหวัดระยองเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน รวมทั้งโครงการเดิมของผู้ว่าฯ คนเก่า ก็พร้อมที่สานต่ออีกด้วย

      สำหรับนายภาสกร บุญญลักษม์ ก่อนเดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ระยอง เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เชียงราย, ผู้ว่าฯ กระบี่, ผู้ว่าฯ ปทุมธานี และอธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย.

Loading

วท.ระยอง เติมความรู้ นศ.’ถ่ายน้ำมันเครื่องและการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์เบื้องต้น’

     วันที่ 27 ส.ค.68 ที่บริเวณโดมเอนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง เป็นประธานเปิด ‘อบรมเชิงปฏิบัติการ ‘การถ่ายน้ำมันเครื่องและการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์เบื้องต้น’ แก่รักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาช่างยนต์ ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย (อวท.) วิทยาลัยเทคนิคระยอง

      ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะให้นักเรียน นักศึกษา สามารถดูแลและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการฝึกปฏิบัติในการตรวจเช็กและประเมินสภาพความพร้อมในการใช้งานของรถจักรยานยนต์ มีนักเรียน นักศึกษา นำรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 100 คัน โดยได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์จาก บ.ฮอนด้าปิยะ, Super Drag Rim, เก้าเจริญยนต์, ตะลอน ตะลอน อะไหล่ซิ่ง กรุงเทพระยอง และนัทอะไหล่ซิ่ง.

Loading

สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา สอศ. ลงพื้นที่เก็บข้อมูลติดตามผู้สำเร็จการศึกษา และภาวะการมีงานทำ นศ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง

      เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติธัช สันธานเดชา ผอ. กลุ่มประเมินผล สำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา สำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พร้อมคณะลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง เก็บข้อมูลเพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการติดตามผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาและภาวะการมีงานทำและโครงการสำคัญตามนโยบายการพัฒนาอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พศ.2569-2569 โดยมีโครงการที่มาติดตาม ประกอบด้วย โครงการพัฒนาและยกระดับการติดตามผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาและภาวะการมีงานทำ โครงการพัฒนาทักษะและสมรรถนะวิชาชีพกำลังคน(Up-Skill, Re-Skill)เพื่อลดภาระของผู้เรียนและผู้ปกครอง และโครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาในการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีนายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมด้วยนายอานุภาพ วาสะสิริ นายชาคริต รุ่งรัตน์ รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง และครูผู้สอน ให้การต้อนรับพร้อมชี้แจงข้อมูลการดำเนินงานโครงการดังกล่าวให้รับทราบ

        ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลการดำเนินงานของโครงการดังกล่าว นำไปวิเคราะห์ สรุป และและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อพัฒนาโครงการและนโยบายการอาชีวศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป.

Loading

เทคนิคระยอง รับเกียรติบัตรดีเด่นเป็นสถานศึกษาที่มีการขับเคลื่อนการใช้งานระบบฐานข้อมูลความร่วมมือ M-OVEC ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ส.ค.68 นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง มอบหมายให้ ดร.ชรินทร์ ชูชื่น และ นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง เข้ารับเกียรติบัตรเป็นสถานศึกษาในการขับเคลื่อนการใช้งานระบบฐานข้อมูลความร่วมมือ M-OVEC ในระดับดีเด่น ที่มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพจากนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดขึ้นในงานมหกรรมรวมพลังภาคีเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ณ ห้องประชุมปทุมมาศ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จ.ปทุมธานี

      สำหรับระบบ M-OVEC คือ ระบบฐานข้อมูลความร่วมมือ (MOU Database System) ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการทำความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษากับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัด สอศ. สามารถบริหารจัดการข้อมูลความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

Loading

เทคนิคระยอง ต้อนรับคณะ JICA จากญี่ปุ่น หารือและเตรียมรับอาสาสมัครญี่ปุ่นมาประจำเทคนิคระยอง เสริมสร้างด้านวิชาการร่วมกัน

    วันที่ 26 ส.ค.68 ที่ห้องประชุมร้านใบชะมวง ศูนย์การเรียนรู้อาหารถิ่นระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมด้วย ดร.ชรินทร์ ชูชื่น นายชาคริต รุ่งรัตน์ รองผู้อำนวยการฯ หัวหน้าแผนกและคณะครูจากแผนกวิชาเมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ หัวหน้างาน และครูศูนย์ภาษาต่างประเทศ ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)

      ทั้งนี้ การเดินทางมาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและเตรียมความพร้อมในการรับอาสาสมัครญี่ปุ่น ภายใต้ ‘โครงการ JOCV (Japan Overseas Cooperation Volunteers)’ ซึ่งจะมาประจำการ ณ วิทยาลัยเทคนิคระยองในเร็วๆ นี้ โดยโอกาสสำคัญครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านวิชาการ และการพัฒนาบุคลากรระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น.

Loading

สกพอ. ผนึกกำลัง 4 ภาคีเอกชน สร้างระบบนิเวศการลงทุนที่ทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อการพัฒนา EEC อย่างยั่งยืน

      วันที่ 26 ส.ค.68 ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 4 หน่วยงานเอกชน ได้แก่  นายทินกร ลาวัณย์เสถียร ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง นายณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาคมสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย คลีน อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด และนายบดินทร์ อุดล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ East Water

       ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้จัดขึ้นบนเวทีย่อย Mini Stage งาน EEC Expo 2025 เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนการลงทุนที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกในพื้นที่ EEC หัวใจสำคัญของความร่วมมือ คือการเชื่อมโยง นักลงทุน – ผู้ประกอบการ – ชุมชนให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างสมดุล โดยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน และ SME ส่งเสริมการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ตลาดในประเทศและต่างประเทศ เปิดช่องทางตลาดใหม่พร้อมการสนับสนุนด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ และการจัดจำหน่าย และที่สำคัญคือ ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG และธรรมาภิบาล เพื่อความยั่งยืน

         ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวถึงความสำคัญของ MOU ครั้งนี้ว่า ‘นี่ไม่ใช่แค่ความร่วมมือ แต่คือการสร้างระบบนิเวศการลงทุนที่ทุกคนได้ประโยชน์อย่างเป็นธรรม เราต้องการเห็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ และชุมชนเติบโตไปด้วยกัน เกิดเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น การเสริมสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ และร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของพื้นที่ EEC ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดย สกพอ. จะทำหน้าที่เป็น ตัวกลางเชื่อมโยงนักลงทุนกับชุมชนและผู้ประกอบการ พร้อมใช้มาตรการสนับสนุนสิทธิประโยชน์ และการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยพลังความร่วมมือครั้งนี้ พื้นที่และชุมชนใน EEC จะไม่เพียงเป็นจุดหมายการลงทุนเท่านั้น แต่จะกลายเป็น ศูนย์กลางการพัฒนาที่สร้างโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน.

ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน

Loading

เทคนิคระยอง ต้อนรับคณะครูวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีราชา หรือ S-TECH จ.ชลบุรี ศึกษาดูงานศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา

       วันที่ 26 ส.ค.68 ที่วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมด้วย นางณัฐธารีย์ สิริกุลปัญญาพร นายชาคริต รุ่งรัตน์ รอง ผอ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง และ น.ส.ปิติณัช พุกอ่อน หัวหน้างานส่งเสริมผลิตผลการค้าและประกอบธุรกิจ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา แผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยเทคนิคระยอง ให้การต้อนรับคณะผู้บริหาร ครู บุคลากร และนักเรียน นักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีราชา S-TECH จ.ชลบุรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงานการดำเนินงานของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคระยอง

      ทั้งนี้ การศึกษาดูงานดังกล่าว มุ่งเพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา การส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ ตลอดจนแนวทางการพัฒนาทักษะทางธุรกิจและนวัตกรรมให้แก่ผู้เรียน โดยมีการนำเสนอข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเยี่ยมชมการดำเนินงานจริงของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา.

Loading

คณะผู้แทนจากองค์กร Nogezaka-Glocal ประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาร่วมประชุมร่วมกับเทศบาลตำบลทับมา สนับสนุนการศึกษาสำหรับเด็กข้ามชาติ แก้ไขปัญหาเข้าไม่ถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Mr. Toshiyuki Okui พร้อมคณะผู้แทน Nogezaka-Glocal ประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับเทศกาลตำบลทับมา จ.ระยอง โดยนายฉัตร แก่กล้า รองนายกเทศมนตรีตำบลทับมา และ น.ส.เรวีญา ขจิตเนติธรรม ปลัดเทศบาลตำบลทับมา ภายใต้ ‘โครงการสนับสนุนการศึกษาสำหรับเด็กข้สมชาติผ่านการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างประเทศไทย และ ประเทศญี่ปุ่น’ ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.นี้ โดยได้รับฟังสถานการณ์เด็กข้ามชาติที่เข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลทับมา โรงเรียนชุมชนวัดทับมา และศูนย์ศึกษาพิเศษประจำจังหวัดระยอง พร้อมกับเดินทางไปติดตาม สอบถามสัมภาษณ์การเรียน และความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนจากครูผู้สอน ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนข้ามชาติในสถานศึกษาทั้ง 3 แห่งด้วย นอกจากนี้ยังได้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอาสาสมัครชุมชนอีกด้วย โดยในพื้นที่ตำบลทับมา มีเด็กนักเรียนข้ามชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ เรียนอยู่ในโรงเรียนในพื้นที่รวม 89 คน

      โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กข้ามชาติที่เข้าไม่ถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสาธารณสุข และแรงงานผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีในการพบปะหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อวางแนวทางการดำเนินงานของโครงการในระยะต่อไป.